ผมเคยดูรายการที่คุณ
ธเนต วงษา
ออกรายการครั้งหนึ่งและเขาได้พูดประโยคนี้ออกมาเมื่อพิธีกรถามเขาว่าไปชักชวนคนยังไงให้มาร่วมธุรกิจจึงจะสามารถประสบกับความสำเร็จในชีวิตได้อย่างที่เขาเป็นบ้าง
ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าประโยคที่เขาไปถามนั้นก็คือการถามว่าอยากรวยไหม
ซึ่งตอนแรกมันก็ขัดกับความคิดของผมครั้งแรก
เพราะตามความเข้าใจของผมก็คือการที่เราจะไปชวนคนมาทำธุรกิจขายตรงกับเรานั้น
เราจะต้องทำให้เขาเห็นถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของสินค้าเสียก่อนว่ามันดีและก็แตกต่างจากของคู่แข่งยังไงบ้าง
แต่หากมองกันจริงๆแล้วในยุคที่การตลาดนำการผลิตอย่างในทุกวันนี้
ในท้องตลาดนั้นมีสินค้ามากมายที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับสินค้าของเราที่เรากำลังจะขายอยู่
นอกจากนั้นในเรื่องของราคาก็ใกล้เคียงกันไปจนถึงถูกกว่าก็มีเหมือนกัน
ซึ่งการที่เราจะอธิบายและยกตัวอย่างว่าสินค้าดีและมีประสิทธิภาพสูงนั้น
อาจจะต้องใช้เวลาอย่างมากมายกว่าเขาจะเชื่อและก็เห็นด้วย
หรือบ้างครั้งเขาอาจจะไม่เห็นด้วยเลยด้วยซ้ำไปว่าสินค้าของเรานั้นเป็นสินค้าที่ดีและก็มีคุณภาพ
ซึ่งหากเรานำเสนอในเรื่องของสินค้าแล้วไม่สามารถเปิดใจที่จะทำให้เขาเชื่อในตัวสินค้าได้เราก็ไม่สามารถที่จะนำเสนอในเรื่องต่อไปที่สำคัญกว่านั้นก็คือ
เรื่องของผลตอบแทนหรือว่ารายได้ๆนั้นเอง
แต่การที่เราเริ่มต้นการชักชวนด้วยการถามว่าอยากรวยไหม
นั้นก็เป็นเหมือนการก้าวข้าวคำถามข้อที่ 1 ไปเลย
โดยส่วนมากแล้วแน้วโน้มคนที่จะเข้าร่วมกับธุรกิจที่เราไปชักชวนนั้นส่วนมากมักจะเป็นคนที่ต้องการมีรายได้เพิ่มหรือรายได้ที่มากที่สุดนั้นเอง
ซึ่งหากแผนรายได้ที่เรานำเสนอนั้นน่าสนใจก็จะทำให้เขานั้นสนใจที่จะเข้าร่วมธุรกิจโดยที่ถามถึงรายละเอียดในเรื่องของสินค้านั้นน้อยมากๆ
ผมจึงได้เข้าใจว่าที่ผ่านมาที่เราพยายามนำเสนอในเรื่องของตัวสินค้านั้นอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรานั้นยังไม่ประสบกับความสำเร็จในธุรกิจนั้นเอง
เพราะเรามองความสำเร็จผิดด้านนั้นเอง
แค่คำพูดเดียวสามารถเปลี่ยนมุมมองในการทำธุรกิจของผมไปได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องของสินค้านั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่มีความสำคัญเพราะหากว่าสินค้าเป็นสินค้าที่ไม่ดีและไม่มีคุณภาพแล้วละก็การซื้อเพื่อใช้งานซ้ำของสมาชิกนั้นก็จะน้อยตามไปด้วยนั้นเอง
ดั้งนั้นหลักในการเลือกบริษัทหรือว่าธุรกิจที่เราจะไปเข้าร่วมตั้งแต่ต้นนั้น
ควรเป็นธุรกิจที่มีสินค้าที่ดีและก็มีคุณภาพสูงนั้นเอง
จนทำให้ลูกค้านั้นซื้อสินค้าไปใช้แล้วเห็นผลอย่างชัดเจนนั้นเอง
สรุปง่ายๆก็คืออันดับแรกเลยละสินค้าจะต้องเป็นสินค้าที่ดีก่อน
และแผนการจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักธุรกิจนั้นก็ต้องดีด้วย
แต่เวลาที่เรานำเสนอนั้นเราจะนำเสนอในเรื่องของผลตอบแทนที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราก่อนนั้นเอง
เพราะมันจะเป็นการกรองคนที่เข้ามาร่วมธุรกิจให้เป็นคนที่อยากจะสร้างความมั่งคั่งเช่นเดียวกันกับเรานั้นเอง
ซึ่งคนที่เข้ามาแล้วไม่ได้ขยายองค์กรต่อก็อาจจะทำให้องค์กรของเรานั้นไม่ได้เติบโตขึ้นจากเดิมนั้นเอง
แค่เพียงแค่พลิกมุมคิดก็อาจจะสามารถทำให้ชีวิตของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่สวยงาม
ที่สามารถพลิกชีวิตของคนทั่วๆไปได้อย่างมากมายมหาศาล
และเป็นธุรกิจที่ง่ายๆเมื่อเทียบกับการที่เราจะต้องเริ่มต้นในธุรกิจอื่นๆเอง
เพราะทุกการเริ่มต้นในธุรกิจนั้นก็จะต้องมีเรื่องของการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้นเอง
ธุรกิจเครือข่ายจึงเป็นธุรกิจที่ใช้เงินจำนวนน้อยในการเริ่มต้นธุรกิจนั้นเอง
และยังสามารถสร้างรายได้อย่างไม่จำกัดให้กับคนที่เข้ามาร่วมกับธุรกิจ
โดยขึ้นอยู่กับความสามารถของคนนั้นๆว่าสามารถที่จะสร้างองค์กรหรือว่าขยายองค์กรได้มากน้อยแค่ไหน
ซึ่ง ณ
ตอนนี้ผมว่ามีธุรกิจหนึ่งที่จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดได้นั้นก็คือ
jafra thailand เพราะเขานั้นพึ่งจะเริ่มต้นไนประเทศไทย
ในเดือนมกราคม 2562 ที่จะถึงนี้เอง
และแผนการตลาดที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นโดยเริ่มต้นการใช้งานในประเทศไทยเป็นแห่งแรกก่อนที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆในอนาคตนั้นเอง จาฟรา
#s7content
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น